ไม่ได้อัพนานมากกกกก,, เพิ่งจะมีอารมณ์อัพ ฮ่าฮ่าฮ่า
โพสนี้มีอารมณ์
ว่าด้วยเรื่องของชื่อ ที่เอาไปใช้ ที่ ตปท. (โดยเฉพาะประเทศที่ใช้ภาษาปะกิด)
ไม่ต้องลีลา ไปอ่านกันเรย !
......................................................................................................
เรามีปัญหาเรื่องชื่อมาโดยตลอดค่ะ
เพราะชื่อคนไทยอย่างที่รู้ๆกัน
เราเน้น "ความหมาย" เป็นหลัก
ไม่ใช่แค่ชื่อจริงเท่านั้นนะ นามสกุลด้วย
ชื่อจริงและนามสกุลจริงเราจัดว่ายาว
" กรกนก วงศ์เสรีวัฒนา "
เอาเป็นว่า แค่ตอนเรียนเป็นภาษาไทย ต้องเขียนชื่อทุกใบในข้อสอบ
ก็ใช้เวลาประมานนึงแล้ว..
ประสบการณ์ แรกกับชื่อคือ การไปสั่ง Starbucks
Starbucks ที่ ตปท ถ้าใครเคยไปจะรู้ว่า มีการระบุชื่อลงบนถ้วย
ไม่ว่าจะด้วย Marketing หรือการไม่มั่ว order กันก็ตาม
เวลาพนักงานถามว่า
" Can I grab your name ?"
เราก้อตอบไปแบบพยายามพูดสำเนียงต่างชาติว่า "คอร์น"
ขอแอบท้าวความเรื่องชื่อเรานิดนึง
จิงๆแล้ว จะสะกดตรงตัวเรยก้อได้ กร = gone
แต่เนื่องจากเราเป็น ผู้หญิ่งที่ "เยอะ"
ความหมายของคำว่า gone มันแปลว่า หาย หรือการจากไป
เราเรยไม่ชอบออกเสียงว่า "กร" ตรงๆ
จุดยากมันอยู่ตรงนี้ ,, ไปถึงไม่เท่าไหร่ ภาษาก้อยังไม่แข็งแรง
และกรออกเสียงชื่อให้มันได้ Korn นี่ ,, จัดว่า Challenging เรยทีเดียว
ตัดภาพกลับมาที่ร้าน Starbucks
หลังจากที่ ผญ คนนี้ บอกเค้าไปว่า "คอร์น"
แก้วที่ได้มา ก้อเขียนว่า "Kom" บ้าง "Kon" บ้าง "kor" บ้าง..
เอาเป็นว่าช่วงแรกที่สั่ง Starbucks ไป ไม่เคยได้แก้วไหนเรย ที่เขียนว่า .. Korn..
โอเค,, ไม่พอใจ
ถ้าชื่อนี้มันออกเสียงยากนัก ก้อเปลี่ยนมันไปเล้ย !
สุดท้ายแล้วเรยให้เพื่อนๆ พี่ๆ และน้องๆ ที่รู้จัก ตั้งชื่อให้ดิชั้นใหม่
ดังนั้น เราจึงมีชื่อภาษาอังกฤษว่า " Claire "
อันนี้เรยเป็นที่มาของชื่อภาษาอังกฤษนั่งเอง
หลังจากนั้น พออยู่ไปสักพัก เราก็ต้องมีการทำ paperwork
เช่น การสมัครเรียน สมัครสอบ สมัครสมาชิก เอกสารธนาคาร บัตรนักเรียน ฯลฯ
ดังนั้น ปัญหาที่ 2 ของเราคือ .. ชื่อยาวเกินไป ..
Kornkanok Wongsereewattana
ไม่มีบัตรไหนเรย ที่สามารถ fit ชื่อนี้ลงไปได้
ทุกครั้งที่ทำบัตร ทุกครั้งที่ฝรั่งเห็นชื่อ ทุกครั้งที่เราแจ้งชื่อ ทั้ง personal และ โทรศัพท์
ทุกคนจะทำหน้า "อึ้ง" อย่างเห็นได้ชัด..
เช่น ตอนนั้นบินไป Yukon เรายื่น Passport และ ticket ให้พนักงานเชค
เค้าถึงอุทานออกมาว่า
" this name is so interesting." และใช้เวลาเชคตั๋วประมาน 1 นาที ในการเทียบชื่อเลยทีเดียว
เวลาที่ใครโทรมาขอสาย กรกนก ทุกคนก็จะแบบ
" May I speak with คอ.. คอร์..น คะ... คา โหนก.. please ? "
ซึ่งเราก็สงสารเค้านะ เพราะว่ากจะพูดชื่อเราจบ
หมดเวลาสะกดก้อประมาน -30 วินาทีล้ะ
ตอนแรกเราก้อไม่รู้ ว่าเราสามารถดัดแปลงชื่อตัวเองได้
แต่จริงๆแล้ว ทำได้ค่ะ
ตราบเท่าที่มันไม่ใช่เอกสารสำคัญอะไรมาก
(แน่นอน ยกเว้นเอกสารธนาคาร เอกสารสมัครสอบ อันนี้สำคัญ)
เช่น ถ้าเราไปสมัครสมาชิก gym เราก็แปลงชื่อเราได้
ทำไมเราถึงรู้ ?
เพราะมีครั้งนึงที่ไปสมัครสมารชิกที่ gym แห่งหนึ่ง
เค้าถึงขั้นพูดว่า "ขอตัดชื่อเราออกได้มั๊ย มันไม่พอ" ...
หลังจากนั้นมา ถ้าต้องใช้ชื่อในอะไรก็ตามที่มันไม่ได้จริงจัง หรือใช้แค่ครั้งเดียว
เราก็จะใช้นามแฝงไปเลย เป็นการตัดปัญหา การสะกดชื่อ และการพิมพ์ชื่อใส่บัตร
นี่มันเป็นปัญหาระดับชาติเรยนะเฟร้ย ! 5555
ก็เรยได้ชื่อแฝงมาอีกชื่อกลายเป็น
Claire Wong
สั้นขนาดนี้ ! พอใจยังคะ พวกคุณ !
..........................................................................................................
แต่จริงๆแล้ว ชื่อยาวแบบนี้ ก็มีประโยชน์นะ
ตรงไหน ,, ?
เดี๋ยวจะเล่าเหตุการณ์นึงให้ฟัง
สถานที่ๆเราทำงานอยู่นั้น ส่วนใหญ่ homeless จะค่อนข้างเยอะ
ดังนั้น จะเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างโดนป่วนเยอะหน่อย
อีกทั้ง เป็น international student ด้วย คนพวกนี้มักจะมาเหยียดหยามบ่อยๆ
มีครั้งนึงที่ พวกนางอยากเข้าห้องน้ำ ซึ่งจิงเราปิดห้องน้ำทำความสะอาดไปแล้ว
ตาม Policy และ duty ของ manager ว่าปิดห้องน้ำเวลานี้ๆๆนะ
มี homeless นางนึงเข้ามาขอใช้ห้องน้ำ
จริงๆ เค้าไม่จำเป็นต้องซื้ออะไรหรอกนะ แต่ห้องน้ำเราปิดแล้วจะให้ทำไง
เราก็บอกไปว่า out of order
นางก็ขึ้นเสียงเรย จะใช้ให้ได้และขู่พวกเราโดยการถามชื่อ
จิงๆเราอยากจะบอกว่า การขู่ด้วยการถามชื่อนั้น.. ไม่ได้ทำให้พวกเรากลัวแม้แต่น้อย
ก็เราถูกสั่งให้ปิดเวลานี้ ถึงเค้าจะเอาชื่อเราไปฟ้อง manager เค้าก็ไม่ทำอะไรอยู่ดี
นางเริ่มใช่ถามชื่อเพื่อนเราทีล้ะคน
เพื่อนเราก็บอกว่า ไม่บอก ไม่จำเป็นต้องบอก.. ฯลฯ
พอถึงตาเรา นางถามชื่อเราอย่างเสียงดังให้เรากัวเกรง
เราเรยบอกไปว่า
"กรกนก วงศ์เสรีวัฒนา" ด้วยสำเนียงไทย เสียงดังฟังชัด ควบกล้ำและ ร.เรือ กระดกลิ้น
เราถามต่อด้วยว่า "จะเอาเบอร์ manager ไปมั๊ย? เดี๋ยวเขียนให้"
นางจ้องหน้าเราประมาน 30 วิ
ดิชั้นก้อจ้องกลับ และทำตาใสใส แบ๊วๆ ใส่
นางหันหลัง แล้วเดินจากไป ...
เห้ !
จิงๆชื่อเราก็มีประโยชน์นะ ! ฮ่าฮ่าฮ่า
..........................................................................................
ชื่อไทยเรายากไม่พอ ชื่อบางชื่อ ถ้าเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษเมื่อไหร่
มันจะกลายเป็นคำที่บางทีฟังแล้วรุสึก.. awkward หรือ แปลกๆ
และบางที คำออกเสียงก็ไม่เหมือนกันอีกนะ !
เช่น
Nut คำนี้ในภาษาอังกฤษเป็นคำ แสลง ที่แปลว่า "บ้า"
และสำหรับบ้านเราชื่อนี้ใช้อ่านจริงๆได้ 2 แบบ นัท หรือ นุท
แต่ทั้งหมดทั้งมวล คำนี้รุสึกจะเด่นสุดใน topic ว่าด้วยเรื่องของชื่อ นั่นคือออออ
"พร" ใช่แล้น !!!!
เพราะเวลาคนชื่อนี้สะกดเป็นชื่อภาษาอังกฤษจะกลายเป็น Porn ! ขึ้นมาทันที
ทุกคนคงรู้นะว่า ชื่อนี้หมายความว่าอะไร 5555
สมมติว่า
ชื่อ Suchaporn ถ้าคนไทยอย่างเราๆอ่าน เราก็จะอ่านว่า สุชาพร แต่ฝรั่งอ่าน " Such a porn "
ชื่อ Pornrat เราอ่านกันว่า พรรัตน์ แต่ฝรั่งอ่าน "Porn rat"
.....
คนชื่อ พร ถ้าไป ตปท. ก้อต้องทำใจนะก้ะ,, ถ้าไม่ใช่เอกสารอะไรสำคัญ จะเปลี่ยนชื่อแบบเราก็ได้นะ
อิอิ
...........................................................................................
แล้วชื่อของประเทศอื่นๆหล่ะ ?
เล่าถึงชื่อของคนประเทศอื่นกันบ้าง
ชื่อที่ง่ายที่สุดคงจะไม่พ้นชื่อ "ญี่ปุ่น"
ชื่อคนญี่ปุ่นนี่ขอจัดว่าเป็น สากลโลกที่ ใครๆก็เรียกได้
ยูกิ ยูชิ เรโกะ อาโออิ (เห้ย ! เดี๋ยวๆ ตัวอย่างมันแปลกๆ 555)
สั้นๆ ง่ายๆ ฝรั่งเรียกได้
ชื่อชาวญี่ปุ่นไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ ยกเว้น พวกนางไม่ได้อยู่รวมกันนะ
เพราะชื่อพวกนาง ซ้ำกันเกิ๊น อาจจะทำให้เรียกผิดคนได้
ชื่อที่ยากขึ้นมาหน่อย ก็คงเป็น จีนกับเกาหลี
จีนก็ยากตรงออกเสียง เพราะมีหลายโทน แล้วเน้น ฉ.ฉิ่ง ซึ่งยากสำหรับฝรั่ง
ส่วนเกาหลี เน้น ควบกล้ำ อันนี้เราว่า คนไทยน่าจะรู้ว่าภาษาเกาหลี ควบกล้ำเกือบทุกคำ
ไม่มีชื่อไหนยาก และ unique เท่าชื่อของ พวกเราชาวไทยอีกแล้ว
ว่ะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า !
จิงๆก็ไม่ใช่มีแต่ชื่อไทยเท่านั้นนะที่แปลแร้วแปลกๆ
มี classmate เราคนนึงค่ะ ชาวอะไรไม่รู้ แต่โซนแขกหน่อย
ชื่อ "อะแนส" แต่เราก็ไม่รู้นะว่าสะกดยังไง
ตอนนั้นมีการเชคชื่อหน้าชั้น เพราะเพิ่งขึ้น level ใหม่ ครูก็ต้องการจำชื่อนักเรียน
วันนั้นมี 4 วิชา
และถ้าสังเกตจากครูทุกคน ที่ขานชื่อนี้
จะมีรอยยิ้มที่มุมปาก ในลักษณะที่พยายามจะกลั้นหัวเราะ,,
และจะใช้เวลาประมาน 30 วิ ก่อนจะพูด
ก่อนจะเงยหน้า แล้วพูดแบบระวังๆว่า..
" Anus ? "
" ทวารหนัก ? "
จบ.
..............................................................................................
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค๊า !
ถ้าใครอยากให้เขียนเล่าเรื่องอะไร ก้อถามก้อบอกได้น้า
ขอบคุณค๊าาา
11 มิถุนายน 2558