Friday 23 October 2015

วีซ่าแคนาดา เดี๋ยวนี้ทำง๊ายยย ยิ่งกว่าตด

ไม่ได้อัพมานานมากกกกกกก
พอดีช่วงนี้ ต้องทำ visa พอดี

แล้วรู้สึกว่า เห้ยยยยยยยยย !!! เดี๋ยวนี้มันง่ายเวอร์

เรยอยากมาแชร์ประสบการณ์ เผื่อใครอยากทำเอกสารและยื่นเองค่ะ

------------- 

ก่อนอื่น ขออณุญาต เกริ่นเกี่ยวกับ ชนิดของเอกสารหลักๆที่พอทราบมี 3 แบบค่ะ

แบบแรก คือ study permit อันนี้ทุกคนต้องมี ต้องขอ ก่อนจะไปเรียนแน่นอน
วิธีการขอจะขอรอบเดียวกันกับ visa

เค้าเรยเรียกรวมกันไปเลย ซึ่ง ไอตัว visa เนี่ย มันคือ sticker ที่ติดอยู่ใน passport เพื่อเอาไปผ่าน ตม. เข้าประเทศแคนาดา

มี study permit ตัวเดียวเข้าแคนาดาไม่ได้ มีแค่ visa ตัวเดียวเข้าไปได้แต่เรียนไมได้

ตัวถันมาจะเป็น work permit ค่ะ ตัวนี้ เป็นใบอณุญาต ทำงานค่ะ
ไม่ใช่ทุกคอสฯเรียนจะทำได้

ต้องมีเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป อาจจะเป็น on campus คือ ทำได้แค่ part-time เท่านั้น
ระหว่างเรียน หลังเรียนทำไมได้

หรือจะเป็น ระหว่างเรียนทำไมได้เลย

หรือมีอีกแบบนึง ระหว่างเรียนทำได้ และหลังเรียนทำได้
แต่ในกรณีนี้จะต้องเป็นสมัครเรียนมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป
และต้องเป็น คอส ที่ได้ certificate จริงๆจังๆ ไม่ใช่แค่ ภาษาอังกฤษ

รายละเอียดการเรียนจริงๆยังมีอีกมาก ถ้าอยากได้รายละเอียดเยอะๆกว่านี้จริงๆ agency ก็ช่วยได้

แต่สำหรับใครอ่านแล้วเข้าใจ เลือกที่เรียนเองได้ ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่ง agency ค่ะ

-----------------------------------------

เข้าเรื่องเลยดีกว่า

ขอวีซ่าแคนาดา เดี๋ยวนี้ง่ายมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก (เติม ก.ไก่ไปอีก 38 ล้านตัว) เลยค่ะ
(แต่ก่อน ลำบากทั้งสถานที่ วุ่นวายทั้งเอกสาร คนก็เยอะ รอก็นาน หลายสิ่ง)

ถ้าเกิดใครพอจะมีเวลา สามารถลาหยุดได้เต็มๆวันซัก 3 วัน (ไม่ได้ติดกัน)
ก็สามารถจะทำ วีซ่าได้เองโดยไม่ต้องพึ่ง  agency เลย
วันนี้จะมาเล่ารายละเอียดการขอเอกสารอย่างเป็นขั้นตอนให้ฟัง และจงมั่นใจค่ะว่ามันง่ายจริงๆ

1. Acceptance letter

หลังจากตัดสินใจจะไปเรียน เลือกคอส เลือก โรงเรียนได้แล้ว
ขั้นแรกของการทำวีซ่า คือจ่ายค่าเรียนค่ะ

โรงเรียนทางแคนาดาเค้าต้องการให้เราจ่ายค่ายเรียนเต็มจำนวน
วิธีการจ่ายที่ รวดเร็ว และ สะดวกที่สุดคือ บัตรเครดิต
(อันนี้คือ กรณีเราต้องการทำเรื่องเองทั้งหมด ถ้าติดต่อผ่าน agency
อาจจะคุยกันได้ว่าอยากจ่ายแบบไหน)

หรือหากอยากได้วิธีอื่นๆ ก็ต้องอ่านรายละเอียดแต่ละ โรงเรียนดู หรือส่ง E-mail ไปถาม
ว่าเราทำวิธีไหนได้บ้าง
(การติดต่อหลักๆของการสมัครเรียนม สอบถาม ฯลฯ ทุกอย่าง หลักๆอยู่ที่ E-mail ค่ะ)

หลังจากชำระค่าเสียหายแล้วทาง โรงเรียนจะทำเรื่องส่ง จม. Acceptance letter มาทาง E-mail ค่ะ
โดย จม. ตัวนี้ “สำคัญที่สุด” ในการขอวีซ่าค่ะ
มันจะประกอบไปด้วยรายละเอียดคอสเรียน วันที่เริ่ม วันที่หมดคอส ฯลฯ
และเป็นจดหมายที่ยืนยันว่าทาง โรงเรียนได้รับเราเข้าโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว

ระยะเวลาของเอกสารขึ้นกับทางโรงเรียนค่ะ

อย่างเราเคย apply โรงเรียนนึงไป รอประมาน อาทิตย์กว่าถึงจะได้รับการตอบกลับ
ตอบกลับในที่นี้ไมได้หมายถึง acceptance letter นะคะ ตอบกลับว่า รับรู้แล้วว่าสมัคร

เอาหล่ะค่ะ พอบาดเจ็บจากการจ่ายเงินเรียบร้อย ระหว่างรอการตอบรับ เราก็ไปทำเอกสารอื่นๆ รอด้วยเรยค่ะ

2. หนังสือรับรองคววามประพฤติ

ตัวนี้ต้องไปขอที่สถานนีตำรวจสันติบาลค่ะ

มันอยู่แถวๆ รพ. ตำรวจ แถวๆ สยามกับ ชิดลม แถวนั้นค่ะ
ตอนไปคนเยอะมากๆๆๆๆๆ การบริการจะเร็วมากค่ะ เพราะเค้าทำกับแบบมืออาชีพ

สิ่งที่ต้องเตรียมไปตามนี้เลยค่ะ

2.1 ผู้ร้องชาย

  • สำเนาหลักฐานการทหาร (สด.๙, สด.๔๓)
  • บัตรประชาชน
  • ทะเบียนบ้าน
  • หนังสือเดินทาง
  • ใบเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล (ถ้ามี)
  • รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 รูป
2.2 ผู้ร้องหญิง

  • สำเนาหลักฐานการสมรสหรือหย่า
  • หนังสือเดินทาง
  • ทะเบียนบ้าน
  • บัตรประจำตัวประชาชน
  • ใบเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล ถ้ามี
  • รูปถ่าย 2 รูป

เอกสารตัวนี้ต้องไปด้วยตัวเอง
เพราะเค้าต้องให้ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง พิมพ์ลายนื้วมือ นั่นนี่เยอะแยะไปหมด ไปเองค่ะ

ไปเช้าหน่อยก้เสร็จเร็วหน่อย ใครทำงานอาจจะต้องหยุดทำงานช่วงเข้า ไปทำค่ะ

พอเสร็จสับ ก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติรอเอกสารที่บ้านได้เลยค่ะ

3. เอกาสารเกี่ยวกับการเรียน

ถ้าเกิดว่าใครเพิ่งจบ มหาวิทยาลัย เตรียมไปขอ transcription และ certificate รอไว้ได้เลย
ได้มาแล้ว ทำ copy ไว้เยอะๆเลยค่ะ ต้องได้ใช้เยอะแน่ๆ

4.เอกสารทางการเงิน

ตัวนี้เราต้องไปที่ธนาคารที่เรามีเงินเยอะที่สุดค่ะ
ไปขอได้ที่ธนาคาร ตัวนี้ธนาคารจะต้องการ passport เรา

เอกสารจากธนาคารเนี่ย เค้าต้องการอัพเดทที่สุดหน่ะค่ะ
ขอเป็น สกุลเงิน แคนาเดี่ยนดอลล่านะคะ

เอกสารตัวนี้ขอวันนี้ได้พรุ่งนี้

เพราะฉะนั้น เราก้อต้องคำนวนเวลาดีดี ว่าจะไปขอช่วงไหน
เพราะอย่าลืมว่าเราต้องรอเอกสารอื่นๆ เป็นเดือนๆได้เหมือนกัน

5. การทำงานของ ผู้ปกครอง // เอกสารรับรองการทำงาน

อันนี้ในกรณีที่ ผู้ปกครองส่งเราไปเรียน
เค้าก็จะขอเอกสาร รับรองการทำงานของผู้ปกครองด้วย

แปลเป็นภาษาอังกฤษมานะคะ
ถ้ามีหลายแผ่นไม่ต้องแปลทุกแผ่นก็ได้ แปลแค่หน้าแรกแผ่นเดียวก้อพอ

เอกาสารตัวนี้ทำทิ้งไว้เลยก็ได้ถ้าว่าง พอเอกสารทุกอย่างพร้อม จะได้เสร็จพร้อมกัน

แต่ จขบ ยังไม่มีประสบการณ์ ขอเอกสารการทำงาน แล้วไปยื่นหน่ะค่ะ
แต่คิดว่า คงใช้วิธีเดียวกัน ขอเอกสารรับรองการทำงานมา
แล้วก็เอาไปแปลซะ

6. Passport

ใครมีอยู่แล้วก้อรอดไป

แต่ถ้าใครยังไม่มีทำง่ายมากค่ะ
เอาเงินและ บัตรประจำตัวประชาชนไป google หาสถานที่ ที่เราสะดวกที่สุด

เดี๋ยวนี้การทำ Passport สะดวกและรวดเร็วมาก ทุกอย่างแบบว่า จัดการไว้ให้หมด
เค้าจะมีหลายแบบให้เลือกค่ะ ตามราคา จะรอหน่อยก็จ่ายน้อย รีบๆหน่อยก็จ่ายมาก เลือกเอาล้ะกันเนอะ

จขบ. เดินโง่ๆเข้าไป รับบัตรคิว ยื่นบัตรประชาชน
กรอกข้อมูล, รอคิว, ถึงคิว, เดินเข้าช่อง, ถ่ายรูป, แสกนนิ้วมือ, เดินออก, จ่ายตังค์, รอวันมารับ จบ,,

------------------------------

พอเอกาสารที่ต้องเตรียมเองพร้อมเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว
จขบ แนะนำว่า ให้ทำ photo copy ไว้ประมาน 2-3 ชุด เผื่อไว้เฉยๆ เวลาเค้าเรียกหาเราจะได้มี
ถ้าเตรียมไว้ก่อนก้อดี แต่ถ้าไปสถานที่แล้วไม่ครบจริงๆเค้าก็มีบริการให้นะ แต่แผ่นละ 3 บาท

-----------------------------

โอเค,, พร้อมนะ ไปกันเล้ย !

จขบ แนะนำว่า ให้ใช้เวลา 1 วันในการไปทำ visa วันเดียวจบ

รวบรวมเอกสารและเงินสด ให้พร้อมค่ะ
ไปแต่เช้า ขาดเหลือะไรจะได้หามายื่นจะได้ทำให้มันเสร็จๆ วันเดียวเลย

ตอนนี้การขอวีซ่าแคนาดา
สถานที่ตั้งจะอยู่ที่ตึก The Trendy ที่ซอยสุขุมวิท 13

วิธีไปง่ายมาก นั่งรถไฟฟ้าไปลงนานา ลงทางออกที่ 1 แล้วเดินไปที่ สุขุมวิท 13
แล้วเดินเข้าซอยไป จะมีอยู่ตึกเดียวเข้าไปแล้วรู้เลย อยู่ทางขวามือ

ศูนย์บริการเปิด 9 โมงเช้า ปิด 5 โมงเย็น ไปเวลาไหนก็ได้
เปิดแค่วันจันทร์ถึงวันพฤหัสค่ะ (เพราะฉะนั้นต้องลางาน/โรงเรียน)

การทำวีซ่าแคนาดาจะใช้ ลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้น 28

จิงๆศูนย์นี้จะรวมหลายประเทศเข้าด้วยกัน
เราก้อบอก เจ้าหน้าที่ว่าทำวีซ่าแคนาดาหาไม่ยากค่ะ ไม่ต้องกลัว

ยังค่ะ ,, ขอกลับมาที่เอกสาร จิงๆ ยังไม่หมด

ก่อนไปศูนย์บริการค่ะ แนะนำให้ไปธนาคารก่อน
เวลาเราเดินจาก สถานีรถไฟฟ้านานา มาเรื่อยๆ เราจะเห็นสะพานลอย
เดินข้ามสะพานลอย ไปธนาคารกรุงเทพค่ะ

เดินไปบอกเค้าว่าจะมาซื้อ cashier cheque เอาไปขอวีซ่าแคนาดา
ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 4 พันกว่าบาท สำหรับการขอวีซ่าใหม่ทั้งหมดที่รวม study permit ด้วย
แล้วก็จะมีสั่งจ่าย ศูนย์ VFS ศูนย์ที่บริการทำวีซ่าอีก 6 ร้อยกว่าบาท

แต่ถ้าหากมี study permit แล้ว จะจ่าย 2700 ให้กับ สถานทูตค่ะ
จ่ายคนละราคา อย่าซื้อผิดนะ เดี๋ยววุ่นวายเข้าไปใหญ่

หรือถ้าไม่แน่ใจ ไปที่ตึกก่อนก็ได้ ไปปรึกษาเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่จะยื่นมาว่าเราต้องไปซื้อเท่าไหร่ถึงจะถูก

ชำระค่าเสียหายเรียบร้อยแล้ว พร้อมไปที่ตึกค่ะ

-------------------------------

ขึ้นไปที่ชั้น 28 ผ่านยาม ปิดมือถือ เดินผ่านเครื่องจับระเบิดและตรวจกระเป๋า

อย่าเพิ่งเข้าไปที่ศุนย์ค่ะ ให้ตรงไปที่ เครื่องถ่ายรูปก่อน
มันจะเป็นตู้และมีคนเฝ้าอยู่ค่ะ บอกเค้าว่าถ่ายรูปทำวีซ่า

เข้าไปในตู้ ยิ้มอ่อน ,, แชะ รวดเร็วค่ะ เชครูปแล้วไม่พอใจ ถ่ายใหม่ได้อีกครั้ง..

เครื่องถ่ายรูปอันนี้ชัวร์ค่ะ ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ผ่าน เห็นหูเห็นจมูกตาปากครบ
ไซส์หน้าเป๊ะ พร้อมยื่นวีซ่าค่ะ เสร็จแล้วเครื่องจะปริ้นท์ออกมา ค่าเสียหาย 250 บาทค่ะ ได้มา 6 รูป

ถ้ารีบๆ รอบแรกก้อพอค่ะ เอาแค่หน้าไม่เบี้ยวก็พอ
หน้าตาไม่เกี่ยวกับการขอวีซ่าค่ะ ไม่งั้น จขบ คงไม่ผ่าน 5555

หลังจากนั้นเดินเข้าไปที่ห้องของทำวีซ่าแคนาดาค่ะ
ข้างหน้าจะมีคนคุม เราบอกเค้าว่ามายื่นเอกสาร

เราก็เขียนชื่อลงในสมุดเค้าก้อจะปล่อยเราเข้าไป กดบัตรคิวให้
มีเก้าอี้ ให้นั่งรอเรียก นั่งรอเรยค่ะ

ถึงคิวแล้วให้เราบอกเจ้าหน้าที่ว่ามาทำวีซ่าและขอ study permit ค่ะ
ถามเค้าว่าต้องกรอกเอกสารอะไรบ้าง
เอกสารกรอกมือได้ค่ะ เค้าก็จะให้เอกสารที่จำเป็นต้องกรอกมา

ไม่ต้องกลัวค่ะ ที่นี่บริการดีมาก กรอกผิดมีคนชี้แนะ กรอกไม่ครบเดี๋ยวเค้าก้อบอกเราเอง

พอเอาเอกสารมากรอกเสร็จ กลับไปยี่นที่เจ้าหน้าที่คนเดิมค่ะ
แล้วยื่นเอกสารทั้งหมดที่เราเตรียมมา ให้เจ้าหน้าที่เชค
เดี๋ยวเค้าจะบอกเราเองว่าขาดเหลืออะไรบ้าง
เค้าก็จะจัดเรียงเอกสารให้เราเองค่ะ

----------------------------

อ๋อ ลืมบอกไปค่ะ เอกสารอะไรที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา ถ่ายเอกสารแล้วเอาไปให้หมดนะ
บัตรประชาชน, passport, ทะเบียนบ้าน ฯลฯ เอาไปเถอะค่ะ เผื่อไว้เยอะ จะได้ไม่เสียเที่ยว

---------------------------

พอเรากรอกมือเสร็จเราก้อยื่นให้เจ้าหน้าที่ เค้าจะไปช่วยเรากรอกเองค่ะ
เค้าจะบอกให้เราไปนั่งรอ

เค้าก็จะกรอกเอกสาร online ให้เลยค่ะ
หลังจากเจ้าหน้าที่กรอกเอกสารให้เสร็จเค้าก็จะเรียกเรามาตรวจทานว่าถูกต้องทุกอย่าง

ถึงเวลาชำระค่าเสียหายค่ะ
ค่าเสียหายก็จะขึ้นอยู่กับเราใช้บริการอะไรบ้าง

เช่น เอกสารที่ต้องมี copy แต่เราไม่มี ถ้าเค้าทำให้ก็คิดเงิน
ค่ากรอกเอกสาร online, ค่าส่งค่ะ แล้วแต่เรา จะมารับเองหรือจะให้เค้าส่งแบบไหน
ถ้าจะมารัรบเองเค้าก็จะคิดค่าโทรสับ 60 บาท

จ่ายไปค่ะ ขั้นตอนสุดท้ายแล้วจริงๆ.. 
จ่ายค่าเสียหายเสร็จ เค้าก็จะให้เป็น copy passport พร้อมกับใบเสร็จ รอการติดต่อค่ะ

สำหรับคนเพิ่งทำครั้งแรก การติดต่อครั้งต่อไป จะเป็นการติดต่อ เพื่อให้มารับใบตรวจสุขภาพค่ะ
แสดงว่าเอกสารผ่านไปแล้ว ครึ่งทางค่ะ

การไปตรวจสุขภาพก็ง่ายค่ะชิวๆ เสียเวลา อีก 1 วัน
เค้าก็จะมีรายการ โรงพยาบาลมาให้ ตรวจเลือดนั่นนี่ จ่ายเงิน (จ่ายไปเรื่อยๆค่ะ 555)

หลังจากการจ่ายเงินแล้วเราก้อรออย่างเดียวค่ะ
ไม่มีเอกสาร
ทาง รพ. จะติดต่อกับสถานทูตเอง

หลังจากนั้นรอค่ะ จขบ จำได้ว่ารอเป็นเดือนๆ รอไปเรื่อยๆค่ะ
ส่วนใหญ่แล้วถ้าไม่มีปัญหาอะไรผ่านอยู่แล้วค่ะไม่ต้องห่วง
เค้าจะทำให้เราผ่านก่อนเปิดเรียนแน่นอน

แต่เวลาสมัครเรียนให้เราเผื่อไว้นะคะ เผื่อรอเวลาทำวีซ่า กับ study permit เนี่ยแหล่ะ
เผื่อไว้ 2 เดือนค่ะ

สมมติต้องการสมัครเรียนในเดือนมกราคม
เราก็ไปเลือกวันเรียนไว้ประมาน มีนาคม หรือเมษาก้อได้

แต่จริงๆแล้ว โรงเรียนเค้าก็ค่อนข้าง flexible ค่ะ
ถ้าเราทำเอกสารไม่ทัน ก็ e-mail ไปแจ้งเค้าเลื่อนวันเรียนได้ค่ะ

แต่ก็อย่าให้มันวุ่นวายเรยเนอะ 555

----------------------------------

ถ้ามีอะไรอยากจะหาข้อมูลเพิ่มเติม ไปที่ website ของ vfs ที่เป็นศูย์ทำวีซ่าแคนาดาhttp://www.vfsglobal.ca/Canada/Thailand/thai/all_about_visa.html

หรืออยากหาแบบฟอร์ม ก็จะเป็น

เป็นเวปของ สถานทูตแคนาดาที่แคนาดาเลยค่ะ

----------------------------------

ทั้งหมดทั้งปวงนี้ เป็นแค่ประสบการณ์ของ จขบ. เองนะคะ
หากมีอะไรผิดพลาดหรือมีอะไรที่ไม่ครบก็ขออภัยมาใน ณ ที่นี้

สุดท้าย
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ จะมา อัพเรื่อยๆนะคะ
^^

No comments:

Post a Comment