โดยส่วนตัวแล้ว เราได้ยินคำนี้มาตั้งแต่เด็กๆ
เพราะอี้ (หรือภาษาไทยเรียกว่าป้า) ได้กลายเป็นคน Canadian และตั้งรกรากอยู่ที่
Vancouver
เราไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นเหมือนเรามั๊ย
แต่เราเองถ้าพูดถึงคำว่าเรียน ต่างประเทศ มักจะนึกถึงแต่ “America” “England” เพราะเวลาเราดูหนังฝรั่ง
ส่วนใหญ่ก็มาจากอเมริกา หรืออังกฤษ หรือ “Australia”
เพราะมันอยู่ใกล้โซนเอเชีย และเป็นถิ่นของพวกจิงโจ้ กับ หมีโคอะล่า
ไม่เคยสนใจประเทศ Canada มาก่อน
ในที่สุด ความใฝ่ฝันก็มาถึง อยากไปต่างประเทศ
อยากไปเรียนภาษา ด้วยความโชคดี สอบใบประกอบฯ ผ่าน ก็ได้รับทุน พก.มก. (พ่อกูแม่กู)
และประกอบกับอี้อยู่ที่ Vancouver อยู่แล้วเชียร์ให้มาเมืองนี้
ไอเราก็จะเรื่องมากเลือกนั่นโน่นนี่ไม่ได้ กลัวทุนหาย อ๊าว ! Vancouver
ก้อ
Vancouver !
ตอนนี้อยู่ที่นี่ ทำความรู้จักที่นี่มาก็ 1 ปีได้แล้ว
เลยอยากมาเล่าให้ฟัง ว่า Vancouver เนี่ย มันคือที่ไหน อะไร ยังไง,, แต่ก็คงไม่ได้เล่าประวัติความเป็นมา หรืออะไรทำนองที่ว่าวิชาการนะ
แต่จะเล่าตามประสบการณ์เนี่ยแหล่ะ
Vancouver เป็น city
หนึ่งในจังหวัด
British Columbia ในประเทศ Canada ติดกับรัฐ Seattle, America
ห่างกันนิดเดียว ซึ่งสามารถขับรถข้ามไปมาได้จะใช้เวลาประมาน 3 ชม.
British Columbia(B.C.) มีทั้งหมด 7 เมืองด้วยกัน
1 ใน 7 เมืองนั้นก็คือ Vancouver เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด ใน B.C. ตามจริงแล้ว
ใน Vancouver ก็จะแบ่งออกไปอีกทั้งหมด 5 โซนหลักคือ Vancouver, North Vancouver, Burnaby, Surrey, และ Richmond
มันก็มีหลายโซนอะนะ แต่หลักๆที่ได้ยินและได้เยือนบ่อยๆ มีแค่ 5 โซน |
Vancouver ห่างจากไทย
ราวๆ 14 ชั่วโมงในหน้า ร้อน, ใบไม้ร่วง, ใบไม้ผลิ แต่จะห่างจากไทยประมาน 15
ชม.
ในหน้าหนาวค่ะ เพราะว่าพอเริ่มเข้าหน้าหนาว เราจะปรับเวลาให้นานขึ้นอีก 1 ชม.
ที่นี่หน้าร้อนพระอาทิตย์ไม่ยอมตกดิน กว่าจะมืดโน่น ประมาน 4 ทุ่มได้ ตอนเช้าก็ไวเหลื๊อเกิน
ตี 5 ก็สว่างล้ะ แต่ถ้าหน้าหนาวนะ 4 โมงกว่าก็จะมืดล้ะ
ตอน 7 โมงเช้า ยังโพล้เพล้ๆ อยู่เลย
การมาเรียน ต่างประเทศ คิดว่าจะเจอฝรั่งใช่ป้ะ
แต่จริงๆแล้ว มีคนเอเชียถึง 30% กันเลยทีเดียว ตอนที่อยู่ในสนามบินของ Vancouver
ครั้งแรก
คิดว่าขึ้นเครื่องผิด flight เจอแต่คนจีนจ้า 55555
แล้วก็คนเอเชียเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกก ชาติหลักๆเลยก็จะเป็นชาติจีน รองมาน่าจะเป็น เกาหลี, แขก, ฟิลิปปินส์, ญี่ปุ่น และ โซน south
Asia เช่น ไทย, เวียดนาม
Vancouver เป็นเมืองที่มีระเบียบค่ะ
คนจะสุภาพและใจดีมาก และเนื่องจากมีคนเอเชียอยู่เยอะ ฝรั่งที่นี่จะเหยียดคนเอเชียน้อยค่ะ
ไม่เหมือนที่ America ที่คนเหยียดเอเชียจะเยอะ ทำให้การมาเรียนภาษาและการติดต่อสื่อสารง่ายขึ้นมาก
ประกอบกับ Vancouver เป็นเมืองท่องเที่ยว ตามสถานที่สำคัญต่างๆ ก็จะมีหลายภาษากำกับไว้
อ้าวดูกัน อันนี้ในบริษัทนึง มีจะครบมันทุกเชื้อชาติ อิอิ |
จริงๆแล้ว Canada เป็นประเทศ 2 ภาษา คือ
อังกฤษ กับ ฝรั่งเศส ภาษาหลักๆของเมือง Vancouver จะใช้ภาษาอังกฤษค่ะ
คิดจะมา Canada ดูเมืองดีๆ นะคะ
ถ้าอยากได้ภาษาอังกฤษก็เลือกเมืองที่พูดอังกฤษเป็นหลักนะ
ตอนเราไปเรียน
เราเลือกเป็นช่วง Summer คนเยอะเชียวเพราะเป็นช่วง high season ของที่นี่
คนในกำลังออก คนนอกกำลังเข้า
การผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเลยรอนานมาก
ถ้าเป็นนักเรียน แล้วเพิ่ง เข้าประเทศนี้ครั้งแรก เค้าจะแยกให้เราเดินไปอีกห้องนึง
เป็นห้องเขียวๆ ใกล้ๆ ด่านตรวจคนเข้าเมือง เพื่อที่เค้าจะได้ตรวจเอกสารเรา
การผ่านด่านก็ไม่ยากค่ะ พูดไม่เป็นก็ผ่านได้ เพราะเค้าเข้าใจว่าเรามาเรียนภาษา
ไม่ต้องกลัวว่าเค้าจะส่งกลับ ตราบใดที่เราไมได้ทำอะไรผิด
เอาจริงๆแล้ว
ถ้าเรายิ่งตอบเยอะเค้าก็ยิ่งถามเยอะ ตอบสั้นๆ รีบคุยรีบจบ รีบออกจากสนามบินดีกว่า
อยากจะเห็นเมืองจะแย่แล้ว
จำได้ว่า วันแรกที่ก้าวออกจาก สนามบิน อากาศ
หนาวเย็นเลยแหล่ะ ประมาน 23 องศา ต้องใส่เสื้อกันหนาว แต่มีแต่คนมองอะนะ
เพราะเค้าไม่หนาวกันไง มองเหมือนเราเป็นตัวประหลาด แบบ อีนี่หนาวมากใช่ม๊ะ !? 5555 เอออ
ตอนนั้นหนาวจริง แต่คนที่นี่ กำลังจะ แก้ผ้า ..
สำหรับอากาศที่เมืองนี้นั้น เค้าว่ากันว่า จะเย็นกำลังดีในหน้าร้อนไม่ร้อนมาก
และ จะอุ่นที่สุดในหน้าหนาว อันนี้ก็ไม่รู้นะว่าจริงหรือเปล่า
เพราะยังไม่เคยไปเมืองอื่นด้วยสิ แต่ที่นี่หิมะตกไม่บ่อยนะ คือ ถ้าจะเอาแบบพายุหิมะหนาวสั่นในเสื้อกันหนาวหนาๆอย่าในหนังฝรั่งหน่ะ
ไม่มีหรอกค่ะ แต่ก็พอมีบ้าง 3 วันบ้าง 7 วันบ้าง
แต่ที่เยอะที่สุดเลยเนี่ยน่าจะเป็น หน้าฝน ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดอีกเช่นเคย หน้าฝน!
ถึงกับมีคนตั้งชื่อเมืองให้ใหม่เลยค่ะว่า Raincouver 555
เพราะว่าที่นี่ฝนจะตกบ่อยมากค่ะ โดยเฉพาะช่วงหน้าฤดูใบไม้ร่วง ฝนจะตกแถบทุกวัน
แล้ว อีฤดูใบไม้ร่วงเนี่ยมันจะเข้าฤดูหนาวช่ายม๊ะ ... แหมะ ... ก็น่านแหล่ะค่ะ
สะท้านกันไป..
แต่ฝนที่นี่ไม่เหมือนฝนที่ไทยนะ ที่แบบ ซู่ววววววววววววววว์
ลงมาเยอะๆ แต่เป็นฝนที่ตกปรอยๆ เบาๆ ส่วนใหญ่แล้ว มันก็จะตกประมานนี้ไปนานๆ
ตกแบบนี้เราก็ไม่ต้องใช้ร่มก็ได้ ใส่ jacket เอา
น้อยครั้งมากที่จะตกหนักจนต้องใช้ร่ม
สีสัน หน้าร้อน เนื้อ นม 6 packs ฮื่มมมม ,, |
อันนี้หิมะตก เบาๆ,, ช่วงนี้กับช่วงตกใหม่ๆอ่ะสวย ตกนานหิมะสกปรกแล้วไม่ค่อยสวยเลย |
อันนี้ Stanley Park อีกสถานที่ที่ต้องมาเมื่อมาเยือน Vancouver |
การไปไหนมาไหนของคนที่นี่เน้น “เดิน” ค่ะ
ฝรั่งที่นี่ไม่ค่อยมีรถส่วนตัวนะ ส่วนใหญ่ที่เห็นมีรถส่วนตัวก็เห็นจะเป็นคนเอเชีย
โดยเฉพาะคนจีน (พวกนี้รวยมากกกกกกก)
ฝรั่งเค้าเน้นเดิน ไม่ก็ขึ้นรถบัส
บางคนแต่งตัวสวยไปผับเกาะราวรถไฟฟ้าก็เยอะแยะไป อาจจะเป็นเพราะที่นี่ รถแท็กซี่ไม่ได้แพงอย่างเดียวนะ
ไม่ค่อยมีด้วย ต้องโทรตามเอา สำหรับวินมอไซค์ ไม่มีแน่นอน
หนาวขนาดใครจะขับมอไซค์ฟร่ะ..
ถ้าเป็นหน้าร้อน
บางคนก็อาจจะใช้เป็นจักรยานแทนการเดิน เราก็ชอบเดินนะ
การเดินในอากาศที่เย็นๆสบายๆของที่นี่เดินไกลแค่ไหนก็ถือว่ายังโอเค แล้วที่นี่ถนนก็ค่อนข้างสะอาดและปลอดภัย
รถทุกคันกลัวคนหมด มีสัญญาณให้คนข้าม รถก็หยุดให้คนข้ามก่อนทุกครั้ง เพราะฉะนั้นขา
คือยานพาหะนะ หลักของคนที่นี่เลย
มีทางจักรยานโดยเฉพาะเลย ที่นี่จะขับต้องใส่หมวกนะ ไม่ใส่โดนจับจ้า |
อันนี้ของคนเดินข้ามก็มี จะข้ามก็กดปุ่ม รอสัญญาณ แล้วก็ข้าม เป็นระเบียบ ห้ามระหว่างถนน หรือไม่รอไฟ โดนปรับจ้า |
มื้อแรกที่ตกถึงท้องค่ะ คืออาหาร ญี่ปุ่น .. ค่ะ ! อ่านไม่ผิด
อาหารญี่ปุ่น ทำไมมาเมืองนอกเมืองนา นั่งกินอาหารญี่ปุ่น
บอกเลยว่า Vancouver
วัฒนธรรมหลากหลายมากค่ะ
และร้านอาหารส่วนใหญ่ เป็นร้านต่างชาติทั้งนั้น
เอาจริงๆถ้าตอนนี้ให้แนะนำร้านอาหารใน Vancouver ก็แนะนำไม่ถูกค่ะ!
มันขึ้นอยู่กับอารมณ์
ผู้อยากกินจริงๆว่าอยากได้อาหารชนชาติไหน
ขั้นแรกของการเลือกอาหาร
พวกเราต้องนึกก่อนว่า อยากได้อาหารชาติอะไร ไทย, จีน, ญี่ปุ่น, เวียดนาม, แมกซิกัน,
แคนเนเดี่ยน ฯลฯ หลังจากนั้นถึงเลือกร้านอาหารได้ค่ะ
แต่ถ้าให้เอาของแคเนเดี่ยนจริงๆเลย ที่ต้องรู้จักคือ "Poutine" มันเป็นมันฝรั่งทอดราดด้วยน้ำ เกรวี่ และโรยด้วยชีสสสสสสสสสสสสสสสส อ่าาาาาาาาาาาาาาาาห์ ,, น่ากินหล่ะสิ ตัว Poutine หน่ะ เราคิดว่าน่าจะเป็นสำหรับนักท่องเที่ยวนะที่เวลามาถึง Vancouver แล้วต้องไปหากิน
แต่ถ้าจะเอาคนที่นี่ชอบกินเป็นประจำเห็นจะเป็น "Chicken wings" ค่ะ เป็นปีกไก่ทอด หรือไม่ก็อบซอส มีสาระพัดซอส สาระพัดรสชาติให้เลือก มี ไทยซอสด้วยนะจ้ะบอก แต่รสชาติไม่ไทยเอาซะเล้ย !
แล้วอีกอย่างนึงที่คิดว่าน่าจะเป็นประจำชาติคือ "maple syrup" เพราะที่นี่มีต้น Maple เยอะ สัญลักษณ์ ยังเป็น ใบ Maple เลย ก็น่าจะเป็นหลักๆ 3 อย่างนี้นะ ที่ทำให้รู้สึกว่า ชั้นถึง Vancouver แล้วน้ะฮ๊าาาาาาา
นี่จ้าหน้าตา Poutine อ่านว่า พูทีน บางร้านก็จะมีลูกเล่นแบบ ใส่ท๊อปปิ้งหลากหลายกันไป |
อันนี้ Chicken wings จ้า เค้าก็จะมี dipping sauce มาให้ด้วย ส่วนใหญ่ เสริฟคู่ Ranch |
คนที่นี่บ้าเรื่องสุขภาพมาก
หมายถึงถ้าคนมีเงินหน่อยนะก็จะเน้น Organic บางคนก็เป็น vegetarian
ไม่กินเนื้อสัตว์
เพราะว่าเนื้อสัตว์ผ่าน กรรมวิธีเยอะ
และคนที่นี่ชอบแพ้ในสิ่งที่ตัวเองกิน ที่แพ้หลักๆเลยเห็นจะเป็น
peanut ทั้งที่คนที่นี่ชอบกินถั่ว บางคนก็แพ้ gluten หรือสารในแป้งซึ่งตามจริงแล้วคนที่นี่กินขนมปังเป็นหลัก...
เพราะฉะนั้นเค้าจะพิถีพิถันในเรื่องของอาหารมากเป็นพิเศษ
รวมไปถึงการออกำลังกาย
คนที่นี่บ้า Yoga มาก แต่เราว่าดีนะ เป็นกีฬาที่ใช้สมาธิและได้สุขภาพไปพร้อมๆกัน เวลาจะกินอะไรจะสั่งอะไรบางคนก็เลือกมากเหลือเกิน
คำพูดติดปากของคนที่นี่คือ “healthy” กับ “It’s good for you”
แต่ก็แล้วแต่คนนะ
บางคนก็ไม่ดูแลสุขภาพเลยก็มี อ้วนจนเดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็น ก็มีเยอะแยะไป
สีสันหน้าร้อนเค้าหล่ะ เล่นโยคะกลางสวนคนเยอะๆ |
คนเยอะเกิ๊น 5555 |
Starbuck everywhere หยั่งก้ะ 7/11 บ้านเราเลย
มีทุก block ทุกหัวมุมเมือง เพราะฉะนั้นจะนัดใคร ที่ Starbuck นัดสถานที่บอกถนนให้ชัดเจน
ทางที่ดีนัดที่อื่นเหอะ 5555 แต่ที่เค้าก็มีร้านกาแฟชื่อดังที่เอามาแข่งกับ Starbuck อย่างสูสีนะ ชื่อ Timhortons มีทุกหัวมุมเมืองเหมือนกัน เป็นกาแฟของเฉพาะ Canada เลย เป็นหนึ่งในร้านกาแฟที่ ถ้ามา Vancouver แล้วต้องรู้จัก ส่วน เมนูยอดฮิตคือ Ice Cappuccino เป็นกาแฟปั่นธรรมดาอ่ะแหล่ะ ตามจริงแล้วบ้านเราก็มีนะของ บริษัทนี้ แต่ไม่ใช่กาแฟ ที่ไทยนำเข้าเป็นไอติม ชื่อร้านว่า Cold stone
หน้าตา Ice Cappuccino เรียกสั้นๆว่า Ice Cap |
อันนี้ TimHortons และ Coldstone แต่ไม่ค่อยเห็นหรอกนะ แหม อากาศเน้นหนาว ใครมีกะจิตกะใจมากินติม |
อะ แถมอีกรูป มาที่นี่ต้องเจอแน่รับรอง |
เนี่ยแหล่ะ Vancouver ฉบับคร่าว
ให้เห็นภาพรวมเล่นๆ แล้ววันหลังจะมาเขียนเจาะลึกไปถึงรายละเอียดอื่นๆ เช่น การเตรียมตัว, สถานที่ที่น่าสนใจ,
การเช่าบ้าน, การเดินทาง, มุมที่ไม่ดีของ Vancouver ฯลฯ ให้อ่านกันนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค๊า ^0^
ปิดท้ายด้วยรูป Vancouver สวยๆอีก สักรูปนะ =) |
No comments:
Post a Comment